คำอธิบาย ETF ของ Bitcoin และ Ethereum: คืออะไร ทำไม และอย่างไร
วันที่: 03.12.2024
วงการคริปโตเคอเรนซี่ได้เห็นการพัฒนาที่สำคัญหลายอย่างในช่วงหลังนี้... ตั้งแต่การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การตกต่ำ และการฟื้นตัวของ Bitcoin ไปจนถึงบุคคลที่น่าโต้แย้งอย่าง Sam Bankman-Fried ที่ถูกขับออกจากระบบนิเวศการซื้อขายเนื่องจากการล่มสลายของ FTX อุตสาหกรรมนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เรื่องราวล่าสุด (และเป็นที่คาดหวังอย่างมาก) ที่เกิดขึ้นในตลาดเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin และ Ethereum และความเชื่อมโยงกับกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) ข่าวนี้ช่วยกระตุ้นตลาดคริปโต และแน่นอนว่านักลงทุนต่างก็กระตือรือร้นที่จะเข้าใจถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต สิ่งนี้มีความหมายอย่างไรต่อผู้ซื้อขายคริปโตทั่วไปและอุตสาหกรรมโดยรวม การจดทะเบียน ETF จะเปลี่ยนวิธีการซื้อขายสินทรัพย์คริปโตหลักๆ ได้อย่างไร และทำไมการเปลี่ยนแปลงนี้จึงอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิด ทีมงาน CryptoChipy พร้อมเสมอที่จะคอยแจ้งข้อมูลให้คุณทราบ ข้อมูลต่อไปนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจพื้นฐานและการพัฒนาในอนาคตได้อย่างมั่นคง มาเริ่มต้นด้วยพื้นฐานกันก่อนจะเจาะลึกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร

ETF คืออะไร และมีประโยชน์อะไรบ้าง?

สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับแนวคิดนี้ กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) เป็นชุดของหลักทรัพย์ที่ออกแบบมาเพื่อติดตามผลงานของสินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี หรือสินทรัพย์อ้างอิง ในบทความนี้ เราจะเน้นที่สกุลเงินดิจิทัลในฐานะสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจฟังดูเหมือนกองทุนรวมแบบดั้งเดิมเล็กน้อย แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการ

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง ETF และกองทุนรวมคือ กองทุนรวมสามารถซื้อขายได้เฉพาะในช่วงเวลาทำการของตลาดเท่านั้น ในขณะที่ ETF ซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน (ขึ้นอยู่กับตลาด) ความยืดหยุ่นนี้ทำให้ผู้ลงทุนสามารถติดตามสถานะของตนได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ กองทุนรวมมักได้รับการบริหารจัดการโดยผู้จัดการกองทุน ส่งผลให้ผู้ลงทุนต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูงกว่า ในทางกลับกัน ETF จะได้รับการบริหารจัดการแบบพาสซีฟ ทำให้ต้นทุนต่ำลงและให้ผลตอบแทนที่คาดเดาได้ง่ายขึ้น

ข้อดีและข้อเสียของ ETF

ETF สามารถซื้อขายได้เช่นเดียวกับหุ้นสามัญ โดยราคาจะผันผวนตลอดทั้งวัน ทำให้ผู้ซื้อขายสามารถใช้ประโยชน์จากความเคลื่อนไหวของตลาดได้ ETF ส่วนใหญ่มีสินทรัพย์อ้างอิงหลากหลายประเภทแทนที่จะเน้นที่สินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งเพียงประเภทเดียว (เช่น หุ้นแบบดั้งเดิม) คุณลักษณะนี้ดึงดูดผู้ซื้อขายที่ต้องการการกระจายความเสี่ยงและความมั่นคงมากขึ้น โดยเฉพาะในสภาวะตลาดที่มีความผันผวน

ต่อไปนี้เป็นประโยชน์หลักบางประการและข้อสรุปจาก ETF:

  • ETF มีความยืดหยุ่นมากกว่าเมื่อเทียบกับกองทุนรวม
  • ค่าธรรมเนียมและคอมมิชชั่นที่ต่ำลงเนื่องจากโครงสร้างที่ได้รับการบริหารจัดการแบบเฉื่อยชา
  • ETF สามารถติดตามสินทรัพย์เดียวหรือสินทรัพย์หลายรายการได้
  • ความหลากหลายของ ETF ช่วยให้มีเสถียรภาพมากขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน

ETF ตัวแรกเปิดตัวในปี 1993 และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมูลค่าการลงทุนทั้งหมดใน ETF เพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจถึง 10% ต่อปีนับตั้งแต่ปี 2010 เห็นได้ชัดว่าเครื่องมือการลงทุนเหล่านี้ได้รับการตอบรับจากนักลงทุน!

🌟ข่าวสารล่าสุด

🌟คาสิโนใหม่