กฎระเบียบด้านสกุลเงินดิจิทัลมีการพัฒนาหลังคำสั่งผู้บริหารของสหรัฐฯ
วันที่: 04.01.2024
สกุลเงินดิจิทัลมีการซื้อขายกันทุกวัน และอุตสาหกรรมนี้อาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาคได้หากบริหารจัดการไม่ดี แนวทางในการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลแนะนำให้เปลี่ยนมาใช้กรอบการทำงานที่รับรองการประสานงานทั่วโลก

1. ทำเนียบขาวและกฎระเบียบด้านสกุลเงินดิจิทัล

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยอมรับถึงศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินดิจิทัลและออกคำสั่งฝ่ายบริหารให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางประเมินความเสี่ยงและผลประโยชน์ของสกุลเงินดิจิทัล โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างกรอบการกำกับดูแลที่สอดคล้องกับความสามารถในการแข่งขันระดับโลก ความเป็นส่วนตัว และการเข้าถึงบริการทางการเงิน แนวทางแบบรวมศูนย์นี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิทัศน์ทางการเงินสมัยใหม่

2. จำเป็นต้องมีการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลหรือไม่?

ลักษณะการกระจายอำนาจของสกุลเงินดิจิทัลทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของระบบเนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับระบบการเงินแบบดั้งเดิม ความสามารถในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนแบบไม่เปิดเผยตัวตนโดยไม่มีคนกลางทำให้เกิดการเรียกร้องให้มีกฎระเบียบเพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนด้านภาษีและภัยคุกคามต่อเสถียรภาพทางการเงินระดับโลก

3. เหตุใดสหรัฐอเมริกาจึงควรควบคุมสกุลเงินดิจิทัล?

สหรัฐอเมริกาตั้งเป้าที่จะปรับให้สอดคล้องกับมาตรฐานระดับโลก ลดการฉ้อโกง และปกป้องนักลงทุน โครงสร้างการกำกับดูแลที่ปรับให้เหมาะกับลักษณะเฉพาะของสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถป้องกันการจัดการได้พร้อมทั้งส่งเสริมนวัตกรรม นโยบายระดับชาติจะทำให้สหรัฐอเมริกายังคงมีความสามารถในการแข่งขันได้เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ รวมถึงจีนและอินเดียที่นำกรอบการทำงานของตนไปใช้

4. อะไรต่อไปสำหรับกฎระเบียบเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล?

การประสานงานระดับโลกถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ ประเทศต่างๆ เช่น เอลซัลวาดอร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นผู้นำในการกำหนดกรอบการกำกับดูแลเฉพาะ คำสั่งฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ กำหนดบรรทัดฐานสำหรับความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน และอาจส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล

5. กรอบการกำกับดูแลของสหรัฐอเมริกา

วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กำลังดำเนินการจัดทำกรอบการทำงานที่ครอบคลุมซึ่งมอบอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลระหว่าง Commodity Futures Trading Commission (CFTC) และ Securities and Exchange Commission (SEC) Bitcoin และ Ether มีแนวโน้มที่จะถูกจัดประเภทเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ภายใต้เขตอำนาจศาลของ CFTC ในขณะที่สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ อาจถูกตรวจสอบภายใต้ Howey Test เพื่อพิจารณาว่าเป็นหลักทรัพย์หรือไม่ กรอบการทำงานนี้ยังครอบคลุมถึง stablecoin และสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางอีกด้วย

🌟ข่าวสารล่าสุด

🌟คาสิโนใหม่